Cloud, Network, Sensor และ Software ทั้ง 4 ตัวนี้คือองค์ประกอบที่สำคัญของ IoT หรือที่เราเรียกว่า internet of things ซึ่งปัจจุบันนี้มีการถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายและนำไปใช้งานแล้วมากมาย รวมถึง Huawei บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมสัญชาติจีน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซินเจิ้นมณฑลกวางตุ้ง และนับว่าปัจจุบันนี้เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในจีน ก็ได้มีการนำเอา IoT เข้ามาใช้กับการในระบบต่างๆ มากมาย ไปดูกันว่า เบื้องหลังความสำเร็จของอุปกรณ์ไฮเทคทั้งหลายที่เราใช้งานกันอยู่ปัจจุบันนี้ มีอะไรบ้าง

- Huawei OceanConnect IoT platform
หรือเรียกง่ายๆว่า เป็นบริการ Cloud IoT platform ซึ่งมันจะทำหน้าที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ iot ต่างๆมากมายและทำการรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์ทั้งหลายเหล่านั้นแล้วทำการประมวลผล ซึ่งนอกจากที่มันจะสามารถจัดการกับข้อมูลจาก Sensor ทั้งหลายได้แล้ว มันยังสามารถจัดหาอุปกรณ์ IoT เพื่อปรับแต่งค่าการทำงานต่างๆ พร้อมทั้งอัพเดท firmware เพื่อรักษาความปลอดภัย และยังมี API เพื่อให้ระบบแอปพลิเคชั่นอื่นๆ สามารถทำงานเชื่อมต่อถึงกัน เพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลทางด้าน IoT หรือสามารถส่งคำสั่งต่างๆไปยัง IoT ทำได้ง่ายดายอีกด้วย
- Huawei Smart Home Gateway
ด้วยระบบ internet Gateway ที่สามารถประสานบริการต่างๆ ทางด้าน IoT เข้าไปในตัว ช่วยให้ การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทำได้ดี จึงทำให้บ้านพักที่อยู่อาศัยหรือออฟฟิศ กลายเป็น Smart Home หรือ Smart Office ได้อย่างง่ายดาย ด้วยเทคโนโลยีนี้จะช่วยในการจัดการอุปกรณ์ IoT และข้อมูลที่ได้รับจาก Sensor เพื่อนำมาแสดงผล รวมไปถึงการควบคุมด้วยเทคโนโลยีต่างๆ อีกมากมาย
- Huawei EC iot Gateway
ระบบการบริหารจัดการจากศูนย์กลางผ่านระบบ Cloud เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆสามารถนำไปใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ต่างๆเข้ากับใครโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยี Open Edge Computing IoT Gateway ทำให้เกิดการประมวลผลในพื้นที่หน้างานได้ทันที และยังประมวลผลข้อมูลเบื้องต้นได้ในตัว ไม่ทำให้เกิดความล่าช้าเรื่องการส่งข้อมูลขึ้น Cloud แม้จะเป็นงานที่มีความสำคัญสูง เช่น การประมวลผลเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- Huawei NB iot Network
เทคโนโลยีนี้เป็นเทคโนโลยีระบบเครือข่ายไร้สายภายใต้ 4.5 G หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Huawei Narrow Band IoT (NB-IoT) Network มันถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้รองรับอุปกรณ์ IoT ซึ่งสามารถครอบคลุมพื้นที่การให้บริการกว้างขวางและรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT จำนวนมากๆ พร้อมกันได้ และยังประหยัดพลังงานของอุปกรณ์ IoT ที่ต้องใช้ในการเชื่อมต่อ จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนภาพรวมไปพร้อมกัน
- Huawei eLTE Private Wireless network
เป็นระบบเครือข่ายแบบ Private จาก Huawei เพื่อรองรับ iOS Application ที่ต้องการ Bandwidth จำนวนมากโดยเฉพาะ ซึ่ง ระบบเครือข่ายนี้มีความสามารถที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์การสื่อสารครบทุกด้านในรูปแบบที่ต้องการ
- Huawei LiteOS
ระบบปฏิบัติการแบบ Lightweight ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับอุปกรณ์ IoT โดยเฉพาะ มันถูกออกแบบมาให้ประหยัดพลังงาน สามารถเริ่มต้นการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และตอบสนองคำสั่งต่างๆ ภายในเวลาประดับ Microsecond ถึงระดับ Millisecond ความพิเศษของมันคือ ความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เซ็นเซอร์ และอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้มีภาคธุรกิจอื่นๆ นำไปต่อยอด และประยุกต์ใช้พัฒนาเป็นอุปกรณ์ IoT ที่มีความหลากหลายได้ตามความต้องการของตนเอง