เทคโนโลยี ที่มีระบบการทำงานสุดแสนอัจฉริยะ ในยุคนี้ต้องยกให้ IoT ( internet of things) เพราะนี่คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถเชื่อมโยง ข้อมูลต่างๆ บนโลกใบนี้เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ และเราสามารถควบคุมอุปกรณ์เหล่านี้จากที่อยู่แสนไกลด้วยอุปกรณ์ควบคุมต่างๆโดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ต เช่น การสั่งงานเปิดคอมพิวเตอร์จากที่อื่น หรือ การสั่งงานเปิดและปิดไฟ ในบ้านของเราขณะที่เราอยู่ที่ทำงาน เป็นต้น
ในปัจจุบันนี้ ได้มีการนำ IoT ออกไปใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ระดับโลก ภาครัฐและเอกชน และ ปัจจุบันนี้มันก็ยังถูกนำมาใช้ในร้านอาหารหรือคาเฟ่เล็กๆ อีกด้วย ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูว่า การนำ IoT มาใช้ในร้านเหล่านี้ ช่วยแก้ปัญหา หรือเพิ่มมูลค่าในเรื่องใดบ้าง
- แก้ปัญหาเรื่องที่จอดรถและการจองที่จอดรถยนต์ช

เวลาเราเข้าไปรับประทานอาหารไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือร้านใหญ่ ก็มักจะเจอกับปัญหาเรื่องที่จอดรถเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะร้านที่ได้รับความนิยม จะมีการโทรมาจองโต๊ะ แต่สิ่งที่ไม่สามารถจองได้คือที่จอดรถยนต์ และทันทีที่มาถึงร้านกลับพบว่าที่จอดรถเต็ม คงจะไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์แน่ๆ ด้วยปัญหาเล็กๆ เหล่านี้ที่มันมักจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ในเวลาต่อมา จึงได้มีการนำระบบ Smart parking มาใช้ในการตรวจสอบที่จอดรถในขณะนั้นว่าว่างหรือไม่ โดยการติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้ที่ช่องจอดรถ เพียงเท่านี้ เจ้าของร้านก็จะสามารถแจ้งลูกค้าหรือผู้มารับบริการได้ทันที ว่าที่จอดรถเต็มหรือไม่ นอกจากนี้ลูกค้ายังจะสามารถจองที่จอดรถผ่านแอพพลิเคชั่นซึ่งใช้ Passcode สำหรับการยืนยันสิทธิ์การจองได้อีกด้วย
- แก้ปัญหาเด็กเสิร์ฟ
การขาดแคลนพนักงาน ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารหรือคาเฟ่หลายๆแห่ง แม้กระทั่งปัญหาการเสิร์ฟอาหารไม่ทัน เนื่องจากร้านนั้นเป็นที่นิยมของลูกค้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ลูกค้าต้องรอนาน สร้างความไม่พอใจ ต้นอาจจะนำไปสู่การคอมเพลนต่างๆนานา ร้านอาหารหลายๆ แห่งจึงเลือกที่จะใช้หุ่นยนต์ช่วยเสิร์ฟอาหาร หุ่นยนต์เหล่านี้ ถูกควบคุมการทำงานด้วยเทคโนโลยีไอโอที โดยพวกมันจะถูกโปรแกรมให้นำอาหารไปเสิร์ฟตามโต๊ะได้อย่างแม่นยำ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเด็กเสิร์ฟอย่างช่วยลดระยะเวลาในการเสิร์ฟอาหาร แล้วยังช่วยลดความผิดพลาดในการเสิร์ฟอาหารผิดโต๊ะได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

- ช่วยแก้ปัญหาเสริฟอาหารผิดประเภท
ปัญหาการรับออเดอร์ของพนักงาน มีให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ แม้กระทั่งการทำ Order ตกหล่น จนกลายเป็นปัญหาใหญ่และสร้างความไม่พอใจในที่สุด แต่ด้วยการนำ IoT เข้ามาใช้ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกดูเมนูอาหารผ่านแท็บเล็ต และสั่งอาหารที่ต้องการได้ด้วยตัวเองทันที ระบบก็จะส่งข้อมูลต่างๆ เหล่านี้มาอย่างห้องครัว ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความผิดพลาดแล้ว อย่างช่วยลดขั้นตอนของการบริการ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีพนักงานมาอีกรอรับออเดอร์อีกต่อไป ร้านอาหารจึงสามารถเสิร์ฟอาหารแก่ลูกค้าได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการใช้ตู้เย็นอัจฉริยะ ที่จะสามารถช่วยดูแลปริมาณวัตถุดิบในอาหารให้แก่เจ้าของร้าน ทำให้สามารถตรวจดูปริมาณวัตถุดิบที่ยังคงเหลืออยู่ในตู้เย็นผ่านกล้องที่ติดไว้ ผ่านสมาร์ทโฟนอีกครั้งโดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาเปิดตู้เย็นหรืออยู่ในครัว ที่สำคัญยังสามารถสั่งวัตถุดิบหรือเลือกซื้อวัตถุดิบที่หมดไปแล้วจากหน้าจอแท็บเล็ตที่ติดอยู่ในตู้เย็นได้อีกด้วย