IoT Platform “SMART” Technology สุดล้ำของ Huawei

อย่างที่ทราบกันดีว่า ทุกวันนี้โลกเรามีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย เพื่อนำมาใช้พัฒนาระบบการทำงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมไปถึงภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ หนึ่งในเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่มาแรงแซงทางโค้ง หลายๆเทคโนโลยีที่ได้ชื่อว่ามีความทันสมัย ก็คงต้องยกให้ IoT  (internet of things) ซึ่งดูเหมือนว่าสมรรถภาพและความสามารถของมันจะเป็นสิ่งที่ไร้ขีดจำกัด เนื่องจากเราสามารถนำมันไปใช้ ประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ จนเกิดประโยชน์มากมายมหาศาล อย่างที่เราได้ยกตัวอย่าง โครงการต่างๆ เอาไว้ในบทความคราวที่แล้ว อย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือโครงการ “SMART” ทั้งหลายของ Huawei ซึ่งโค้งสุดท้ายในวันนี้เราจะมาดูกันต่อว่า ความล้ำหน้าจาก IoT ถูกนำไปใช้ในแง่ใดอีกบ้าง

• Smart Cold Chain

ว่าด้วยเรื่องของการรักษาอุณหภูมิ ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากในระบบการขนส่งสิ่งของหรือวัสดุพิเศษ เช่น เลือดหรือยา สำหรับใช้ในโรงพยาบาล เป็นต้น แน่นอนว่ามันจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุม ให้อุณหภูมิเหล่านั้นอยู่ในระดับที่กำหนด Smart Cold Chain จึงเป็นโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อจะช่วยให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพเรื่องการขนส่งว่าได้มีการจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นไปตามที่กำหนดอยู่เสมอตลอดทั้งเส้นทางแบบเรียลไทม์ โดย solution นี้ได้มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT เข้ากับ NB-IoT ซึ่งมันจะทำการแจ้งเตือนทันทีกรณีที่เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้น

• Smart build

การจัดการกับระบบจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลภายในอาคาร ถือเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่จากการใช้ EC-IoT Gateway จาก Huawei ที่มีโซลูชัน Niagara Framwork ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น IoT Middleware อยู่ภายใน จึงสามารถทำให้การรวบรวมข้อมูล และการควบคุมอุปกรณ์ IoT ซึ่งมีความหลากหลายมากๆภายในและภายนอกอาคาร นำมาประมวลผล automation ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้คนในอาคารรวมไปถึงการประหยัดพลังงานในอาคารและการตรวจสอบปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น สามารถทำได้ง่ายและแม่นยำมากขึ้น

• Smart locks

ถึงแม้ว่า Smart lock จะเป็นระบบ ที่มีการดำเนินการใช้อยู่ทั่วไปในทุกๆโครงการไม่ว่าจะเป็นคอนโด อาคารสำนักงานต่างๆ ซึ่ง อย่างที่เราทราบกันดีว่ามีระบบล๊อคที่พักอาศัย ด้วย Smart lock แต่สำหรับโครงการนี้ Huawei ได้มีการนำเอา NB-IoT มาใช้ในการเชื่อมต่อ อุปกรณ์ Smart lock เข้ากับ Cloud ซึ่งนอกจากจะ ช่วยในเรื่องของการรักษาระบบความปลอดภัยการล็อคที่พักอาศัยได้เป็นอย่างดีแล้วยังทำให้ไม่ต้องมีการเดินสายหรือวางระบบเครือข่ายไร้สายภายในตัวอาคารมากเหมือนสมัยก่อน ข้อดีของมัน คือการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบอาคารโดยรวม และยังประหยัดพลังงาน ซึ่งมีผลทำให้อุปกรณ์ Smart lock ที่ใช้ถ่าน AA 4 ก้อนนั้น สามารถทำการปลดล็อคประตูโดยอัตโนมัติได้กว่า 8,000 ครั้ง

• eLTE Port AGV Communications

ภาพของรถลำเลียงสินค้าอัตโนมัติในท่าเรือ  Automated Guided Vehicle (AGV)  เพื่อใช้ขนส่ง Container คือสิ่งที่เราเห็นได้จนชินตา เพราะนี่คือแนวทางปฏิบัติสากล ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป และการพัฒนาแบบก้าวกระโดด ครั้งนี้ คือการสร้าง ท่าเรือลำเลียงสินค้าอัตโนมัติ (Autometed Port) ซึ่งจะ ใช้ algorithm ควบคุมการทำงาน AGV เพื่อทำให้การลำเลียงสินค้าเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นสำหรับโครงการนี้ การมี eLTE ที่มีความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากในพื้นที่เดียวกัน ด้วย Latency ต่ำ จึงกลายเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญและมีความจำเป็นมากสำหรับโครงการนี้ และถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงท่าเรือ Yangshan Port ใน Shanghai สำหรับการควบคุม AGV 130 คันและ Container Crane 26 ชุดได้พร้อมๆ กัน

• Elevators connection

อุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ลิฟท์ คือปัญหาที่สำคัญที่อาจจะส่งผลเสียหายต่อทรัพย์สินหรือชีวิต แต่การดูแลบริหารจัดการ รักษาอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับลิฟท์ก็เป็นงานที่มีมูลค่าสูงมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการสำรวจเมื่อปี 2015 พบว่าทั่วโลกมีการใช้งานลิฟท์ มากกว่า 15 ล้านชุด ในโครงการ elevators connection จึงได้มีการผสมผสานระบบ Software defined networking เพื่อเชื่อมต่อระบบเครือข่าย ต่างๆที่กระจายอยู่ตามอาคารจำนวนมากเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งปรับปรุง Security ในส่วนของระบบปฏิบัติการ , ชิป , การเชื่อมต่อผ่าน VPN และแพลตฟอร์มต่างๆ เอาไว้เป็นอย่างดี โดยมีระบบ Edge Computing สำหรับเอาไว้ตรวจสอบ และวิเคราะห์รวมไปถึงแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุผิดปกติขึ้นได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังมีระบบการตรวจสอบปัญหาต่างๆ นั่นก็คือระบบ AI และ Big Data บน Cloud รวมไปถึงมีการทำ Preventive Maintenance จากข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

•  eLTE  Smart Factory

การทำ Manufaturing 4.0 คือเป้าหมาย สำคัญของการทำธุรกิจการผลิตและโรงงานต่างๆ ที่จำเป็นจะต้องเดินไปให้ถึง แน่นอนว่าความสำคัญของมันที่จำเป็นจะต้องทำก็คือการเชื่อมต่อ อุปกรณ์ต่างๆที่หลากหลายภายในโรงงานสามารถทำได้ง่ายขึ้นและมีความรวดเร็วขึ้นในขณะเดียวกันอย่างต้องสามารถควบคุมและบริหารจัดการ ได้จากส่วนกลางทั้งหมด ดังนั้นการนำเทคโนโลยี Huawei eLTE ที่รองรับทั้งการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ Broadband และ Narrowband  และยังรอรับการทำ Multi-service Wireless Network ก็ได้เข้ามามีบทบาทหน้าที่สำคัญในส่วนนี้ ซึ่งนอกจากในเรื่องของ ระบบการบริหารจัดการแล้ว มันยังสามารถรองรับการควบคุมเครื่องจักรหุ่นยนต์ AGV รวมไปถึงกล้องวงจรปิดและอุปกรณ์ IoT อื่นๆได้อย่างหลากหลายในหนึ่งเดียว

• eLTE Gas detection

การตรวจจับการรั่วไหลของก๊าซต่างๆ จากท่อส่งที่ซับซ้อนภายในโรงงานและลงขนาดใหญ่ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก และปัญหานี้ก็ถือว่ามีความสำคัญมาก ต่อระบบความปลอดภัยและอื่นๆ โครงการนี้จึงถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาสำหรับธุรกิจปิโตรเคมีโดยเฉพาะ การใช้ระบบ eLTE Gas stations โดยการเชื่อมต่อ IoT Sensor เข้ากับระบบเครือข่าย eLTE ซึ่งครอบคลุมรัศมีถึง 2-6 กิโลเมตร ทำให้สามารถตรวจสอบส่งและเครื่องจักรทั้งหมดได้อย่างครบถ้วนในส่วนของการติดตั้งก็สามารถทำได้ง่ายๆ ความสามารถในการใช้งานหลากหลาย

•  Smart White Goods

โครงการนี้ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ที่ผู้ผลิตต่างก็ต้องการปรับปรุงให้กลายเป็นสินค้าที่มีความฉลาด โดยการที่ทำให้มันสามารถส่งข้อมูลการใช้งานรวมถึงรายงานปัญหาต่างๆกลับมายังผู้ผลิต ทั้งนี้ก็เพื่อปรับปรุงคุณภาพของสินค้าและการให้บริการรวมถึงทำการดูแลรักษาและเปลี่ยนสินค้าก่อนชำรุด โดยที่ผ่านมาการจัดการกับสิ่งต่างๆเหล่านี้อาศัยระบบเครือข่าย WiFi ปัญหาของมันก็คือไม่สามารถใช้ได้ครอบคลุมอาคารบ้านเรือนครบทุกหลัง ที่สำคัญยังมีประเด็นปัญหาเรื่องความปลอดภัยต่างๆอีกมากมายด้วย เพื่อแก้ปัญหานี้  WiFi จึงถูกแทนที่ ด้วยการใช้ระบบเครือข่าย NB-IoT สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เหล่านี้ให้สามารถส่งข้อมูลไปยังผู้ให้บริการได้อย่างปลอดภัย โดยโครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง Huawei ,  Haier และ Little Swan 

• Smart Home

เทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ใน Huawei Smart Home Solution ก็คือ Network Functions Virtualization (NFV)  ซึ่งมันจะช่วยให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถนำเสนอระบบบ้านอัจฉริยะที่ถูกวางระบบเครือข่ายซึ่งมีความมั่นคงปลอดภัยสูงพร้อมความสามารถในการบริหารจัดการจากส่วนกลางอย่างง่ายดาย เทคโนโลยีดังกล่าวนั้นจะทำหน้าที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ด้วย Partner มากกว่า 200 แบรนด์ทั่วโลก พร้อมด้วยระบบ Smart Home Gateway ที่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการสื่อสารในอาคารบ้านเรือนแต่ละหลัง ได้ในทันที

• Connected Vehicle

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะมาพลิกโฉมธุรกิจยานยนต์ทั่วโลก ซึ่งในส่วนของ Huawei เองก็ได้มีบริการต่างๆพร้อมให้ธุรกิจยานยนต์นำไปเริ่มใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

• Connected Cow

โครงการสุดท้าย ชื่อโครงการปศุสัตว์อัจฉริยะ ซึ่งใช้ NB-IoT ที่มีระยะใกล้ถึง 5 กิโลเมตร ในการเชื่อมต่อเซ็นเซอร์ ที่ติดเอาไว้บนวัว เพื่อใช้ในการรวบรวมข้อมูลสุขภาพของวัวแต่ละตัวช่วยให้การ บริหารจัดการฟาร์มทำได้ดีขึ้น โครงการนี้ ช่วยให้เราได้ทราบข้อมูลเชิงลึก ทางด้านสุขภาพของวัวและทราบได้ทันท่วงทีเมื่อมันมีอาการตกมันรวมไปถึงการเพิ่มปริมาณการผลิตนมของโคนมได้มากขึ้นจากเดิมถึง 20%

และนี่คือโครงการทั้งหมด ของ Huawei ที่ได้มีการนำเอา IoT เข้ามาประยุกต์ใช้งานซึ่งจะเห็นได้ว่า นอกจากที่มันจะช่วยให้ระบบการจัดการต่างๆ ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกๆโครงการ ยังสามารถช่วยเรื่องของการประหยัดพลังงานและงบประมาณในด้านต่างๆได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

credit : https://www.huawei.com/minisite/iot/en/